27 ส.ค.
การสืบพันธุ์ของพืชมีดอก
สิ่งมีชีวิ่ทุกชนิดต่างก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมพยายาม
หลบหลีกจากศรัตรู ภัยจากธรรมชาติ เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุข
ถ้าสิ่งมีชีวิตประเภทใดไม่สามารถปฏิบัติได้ดังกล่าวข้างต้น ก็จะผลให้จำนวน
การตายสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเกิดใหม่ก็มีน้อยลง ในที่สุดจะสูญพันธุ์จากโลก มีพืช
แลสัตว์หลายชนิดที่ไม่สามารถดำรงพันธุ์ให้อยู่ได้ถึงปัจจุบัน
การสืบพันธุ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสิ่งมีชีวิตเพราะการสืบพันธุ์
เป็นการถ่ายทอดลัษณะของตนเองให้ลูกหลานสืบต่อไปเรื่อย ๆ พืชก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเจริญเติบโต มีความสมบูรณ์พอ ก็จะผสมพันธุ์หรือขยายพันธุ์
ให้มีลูกหลานเพิ่มจำนวนมากขึ้น
พืชดอกมีวิธีการสืบพันธุ์ 2 แบบ คือ
1. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ สิ่งสำคัญที่บอกเพศของพืชดอก คือ
เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจึงเป็นการสืบพันธุืที่เกิด
การผสมระหว่างละอองเกสรตัวผู้กับไข่ในรังไข่ของเกสรตัวเมีย เมื่อผสมกัน
แล้วก็เจริญเติบโตเป็นเมล็ด ซึ่งนำไปเพาะจะสามารถงอกเป็นพืชต้นใหม่ได้
กระบวนการในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก คือ การถ่าย
ละอองเกสร และผสมเกสร
2. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เป็นวิธีการสืบพันธุ์อย่างง่าย ๆ
ของพืชที่จะเกิดต้นใหม่ได้โดยไม่ต้องใช้เมล็ด หรือการผสมเกสรแต่อย่างใด
พืชดอกมีวิธีการสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศอยู่หลายวิธี เช่น การงอกต้นใหม่
จากส่วนต่าง ๆ เช่น กล้วย ขิง ข่ง งอกเป็นลําต้นใหม่จากลําต้นที่อยู่ใต้ดิน
ที่เรีอกว่า การแตกหน่อ มันสําปะหลัง อ้อย ตัดเอาส่วนของลําต้นที่มีตา และ
ปล้องอยู่เพียงท่อนหรือสองท่อนไปปักชํา ต้นใหม่ก็จะงอกออกตรบริเวณตา
กะเพรา โหระพา ชบา เข็ม นําต้นหรือกิ่งไปปักชําขึ้นเป็นต้นใหม่ได้เช่น
เดียวกัน ใบของพืชบางชนิด เช่นควํ่าตาหงายเป็น กุหลาบหิน นําไปเพาะ
ให้เกิดเป็นต้นใหม่ได้
ในปัจจุบันมนุยษ์ได้ศึกษาค้นคว้า ทําการทดลอง จนสามาถรช่วย
ให้พืชมีการพืชมีการสืบพันธ์โดยไม่อาศัยเพศได้อย่างกว้างขวางอีกหลาย
วิธี และเป็นที่นิยมโดยทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การสืบของพืชทั้ง 2 วิธีข้างต้นก็มีความสําคัญต่อ
พืชไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะพืชบางชนิดต้องสืบพันธุ์โดยอาศัยเพศเท่านั้น
บางชนิดไม่ต้องอาศ้ยเพศ บางชนิดอจาไช้ทั้ง 2 วิธี การสืบพันธุ์ของพืช
จึงขึ้นอยู่กับชนิดของพืชด้วย
27 ส.ค.
ดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ดอกไม้เป็นส่วนประสำคัญของพืชที่ใช้ในการสืบพันธุ์เกสรตัวผู้และ
เกสรตัวเมียจึงเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของพืชโดยตรง เราแบ่งดอก
ไม้โดยยึดการมีเกสรตัวผู้ เกสรตวเมียเป็นหลักได้ดังนี้
ดอกสมบูรณ์เพศ คือ ดอกที่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเดียวกัน
เช่น ดอกชบา ดอกกุหลาบ ดอกบัว ดอกบานบุรี ดอกมะเขือ ดอกพริก ดอกถั่ว
ดอกฝ้ายดอกกะหลํ่า ดอกข้าว เป็นต้น
ดอกไม่สมบูรณ์เพศ คือ ดอกที่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเพียง
อย่างเดียว ถ้า มีเฉพาะเกสรตัวผู้เรียกว่า ดอกตัวผู้ มีเฉพาะกเสรตัวเมียเรียกว่า
ดอกตัวเมีย พืชหลายชนิดมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน เช่น
มะพร้าว ฟักทอง บวบ แตงกวา ข้าวโพด ตำลึง เป็นต้น พืชอีกหลายชนิดที่บาง
ต้นมีเฉพาะดอกตัวผู้หรือดอกตัวเมียเท่านั้น เช่น มะละกอ ตาล มะยม มะเดื่อ
พืชเหล่านี้คนทั่วไปมักเรียกชื่อเพศตามชนิดของดอกไปด้วย เช่น มะละกอที่มี
ดอกตัวผู้ เรียกว่า มะละกอตัวผู้
27 ส.ค.
พืชดอก
พืชดอก
พืชแบ่งได้เป็นสองพวกใหญ่ๆ คือ พืชมีดอก กับ กับพืชไม่มีดอก
เรามักเรีอกพืชมีดอกว่า พืชดอก และเรียกพืชพืชไม่มีดอกว่า พืชไร้ดอก
พืชที่เรารู้จักและไดัรับประโยชน์อย่างมากมายส่วนใหญ่เป็นพืชดอก
ผักสวนครัว พืชไร่ ไม้ดอก ไม้ผล เป็นพืชดอกที่เรารู้จักกันดี และในประเทศไทย
ของเราก็มีพืชดอกมากมายหลายชนิดที่เราไม่รู้จักอีกมากและพืชดอกบางชนิดเรา
ก็มาบริโภคได้อีกด้วย เช่น ดอกกุหลาบเราก็นํามายําได้และทําได้อีกหลายอย่าเช่นนํา
มาตกแต่งสถานที่ประชุมหรืองานที่เหมาะสมและยังเป็นพืชเศษรฐกิจของไทยอีก
อย่างอย่างหนึ่ง และพืชมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้กล่าวถึง สิ่งที่ควรศึกษามี ดังนี้
– ส่วนประกอบของดอก
– ดอกสมบูรณ์เพศและดอกไม่สมบูรณ์เพศ
– การสืบพันธ์ของพืชดอก
– การถ่ายละอองเกสร
– สิ่งที่ช่วยในการถ่ายละอองเกสร
– การผสมเกสร
– การสังเคราะห์แสง
– การเจริญเติบโตของพืชดอก
27 ส.ค.
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
พืชมีอยู่หลายชนิดหลายพันธุ์ ดอกของพืชดอกจึงมีลักษณะขนาดและสีที่
ต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดใด ดอกจะมีส่วนประกอบที่สําคัญดังนี้
๋๋๋๋๋ กลีบเลี้ยง เป็นกลีบเล็ก ๆ สีเขียว อยู่ล่างสุดของดอก ในระยะที่ดอก
เริ่มผลิดอกออกมาใหม่ๆ เราจะเห็นดอกตูมสีเขียว เมื่อดอกตูมขยายโตขึ้น
สีเขียวที่หุ้มดอกจะแยกออกมารองรับกลีบดอกกลีบสีเขียวนั้นคือกลีบเลี้ยงนั่น
เอง กลีบเลี้ยงจะทําหน้าที่ห่อหุ้มดอกตูม และป้องกันอันตรายให้กลีบดอกในขณะ
ที่ยังออ่นอยู่
กลีบดอก เป็นส่วนที่อยู่เหนือขึ้นมาจากกลีบเลี้ยง กลีบดอกส่นใหญ่
จะมีสีสวยสะดุดตา หลายชนิดมีกลิ่นหอม ความสวยงามของดอกจะขึ้นอยู่กับสี
ลักษณะและจํานวนของกลีบดอกเป็นสําคัญ กลีบดอกเป็นส่วนประกอบของ
ดอกที่บอบชํ่าง่ายและร่วงโรยเร็วกว่าส่วนประกอบอื่น
เกสรตัว มีลักษณะทั้วไปเป็นคล้ายหลอดอันเล็ก ๆ มักมีสีขาว ปลาย
หลอดจะมีอับใส่ละอองเกสร รูปร่างค่อนข้างกลมเกสรตัวผู้จะอยู่ถัดจากกลีบดอกเข้า
มาข้างในดอก ก้านของเกสรตัวผู้อาจจะติดกับกลีบดอก หรือแยกออกมาต่างหาก
ก็ได้ แล้วแต่ชนิดของพืช ดอกไม่ดอกหนึ่ง ๆ อาจมีเกสรตัวผู้ตั้งแต่หนึ่งอันไปจนถึง
หลาย ๆ อัน
เกสรตัวเมีย เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางของดอด อาจจะมีอันเดียวหรือ
หลายอันก็ได้ เกสรตัวเมียโดยทั่วไปจะประกอบด้วยรังไข่ที่อยู่ล่างสุด บริเวณฐาน
รองดอก ภายในรังไข่จะบรรจุไข่อ่อนเล็ก ๆ ไว้ เหนือรังไข่จะเป็นท่อยาวขึ้นมา
เรียกว่า ก้านชูเกสร ในท่อของก้านชูเกสรจะมีเหนียว ๆ อยู่ เพื่อนำเชื้อตัว
ผู้ลงมาผสมกับเชื้อตัวเมียในรังไข่ และบนสุดเป็นยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีนํ้า
เหนียวๆ อยู่เช่นกัน นํ้าเหนียวๆ นี้จะช่วยยึดเกาะเกสรตัวผู้ให้เข้ามาผสมกับเกสร
ตัวเมียได้ดีขึ้น
ฐานรองดอก เป็นส่วนประกอบที่ทำหน้าที่รองรับส่วนอื่น ๆ ของดอก
ฐานรองดอกเป็นที่เจริญเติบโตแผ่ขยายต่อออกมาจาปลายก้านดอก มักจะมีกลีบ
เลี้ยงหุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง ฐานรองดอกของพืชบางชนิดอาจจะหุ้มรังไขไว้ทั้งหมด
เมื่อรังไข่เจริญขึ้น ฐานรองดอกก็เจริญด้วย และฐานรองดอกของพืชบางชนิด
กลายเป็นเนื้อของผลที่ใช้รับทานได้เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แอปเปิล สาลี่ เป็นต้น
้